โรคภัยไข้เจ็บในยุคนี้ไม่เข้าใครออกใครนะคะ วิธีการดูแลตัวเองจึงสำคัญมากเป็นพิเศษ ถ้ามีอาการผิดปกติที่รักษาไม่หายก็ยิ่งต้องใส่ใจ เช่นเดียวกับเรื่องราวของคุณแม่น้องไปป์ชาว “HerKid รวมพลคนเห่อลูก” ที่ประสบปัญหาด้านสุขภาพลูกน้อย พบมีรอยช้ำตามร่างกายอยู่ตลอด ทำให้เกิดความกังวลใจ และพบคุณหมอจึงรู้ว่าเป็นฮีโมฟีเลียA ขั้นรุนแรง เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อ ตามแอดมินมาดูกันค่ะ..
คุณแม่น้องไปป์ “ประสบการณ์โดยตรงจากตัวแม่เอง ด้วยความที่ลูกชาย อายุ 7 เดือนกว่าเป็นคนซนอยู่ไม่นิ่ง ด้วยพัฒนาการช่วงนี้ น้องกำลังเกาะยืน นั่งเล่น เลยมีการกระแทกบ้าง แต่เเม่เริ่มสังเกตว่าน้องมีรอยช้ำง่ายผิดปกติ แค่น้องคลานก็มีรอยช้ำ ตามข้อศอกก็มีรอยช้ำ จนกระทั่งมีรอยช้ำที่หน้า ตอนแรกเป็นวงเล็กๆวันต่อมากระจายเต็มฝั่งด้านขวา แม่จึงคิดว่ามันผิดปกติ จึงไปหาหมอที่คลินิก หมอบอกว่าไปหาหมอ รพ.ตรวจเลือดเลย น้องอาจมีเลือดคลั่งข้างในได้ แม่ก็ตกใจมาก เพราะน้องร่าเริงปกติ แต่รอยช้ำมันขยายวงกว้างมากขึ้น วันรุ่งขึ้นจึงมารพ พอมา รพ. รอคิวเจาะเลือด ทราบผลตอนบ่าย หมอบอกค่าความแข็งตัวของเลือดยาวผิดปกติ หมอเลยให้น้องนอน รพ.และเจาะเลือดตรวจเพิ่ม วันที่สอง หมอโรคเลือดเดินมาบอก พร้อมให้แม่ปิดทีวีและตั้งใจฟังสิ่งที่หมอบอกและให้แม่กับพ่อตะหนักช่วยกันดูแลน้องและบอกว่า น้องเป็น ฮีโมฟีเลีย A ขั้นรุนแรง แม่ก็ตกใจ แต่หมอบอกว่ารายละเอียดเยอะแม่ต้องค่อยศึกษาเอา คร่าวๆคือเลือดออกง่าย ไหลไม่หยุด เป็นความผิดปกติในเลือด แม่กับพ่อก็จิตตกในช่วงแรก แม่ถึงกับน้ำตาไหล เพรทะเป็นห่วงน้อง แม่มีลูกสาวสองคน และเขาเป็นลูกชายคนเล็กคนสุดท้องที่แม่มาโพสต์อยากให้พ่อแม่ลองสังเกตอาการลูกๆดู บางทีรอยช้ำเล็ก แต่เกิดขึ้นง่าย หรือขึ้นมาไม่มีสาเหตุควรมาปรึกษาหมอได้เลยนะคะ อย่าชะล่าใจ เหมือนกรณีของแม่ หมอบอกว่าดีแล้วที่เจอเร็ว เราได้ป้องกันและดูแลเขาได้ถูกต้อง ขอบคุณทุกคนที่อ่านนะคะ แม่อยากบอกต่อเพราะจริงๆน้องเป็นแบบนี้มาสักพักแต่ด้วยคิดว่าไม่มีอะไร เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ให้แม่ๆฟังคะ *โรคนี้รักษาไม่หาย แต่ถ้าดูแลรักษาอย่างถูกวิธี สามารถใช้ชีวิตเหมือนคนปกติได้คะ
และข้อมูลทางการแพทย์เกี่ยวกับโรคฮีโมฟิเลียA มีดังนี้ “Hemophilia (ฮีโมฟีเลีย) หรือโรคเลือดไหลไม่หยุด เป็นโรคทางพันธุกรรมซึ่งมีความผิดปกติเฉพาะในโครโมโซม X ทำให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้มีอาการเลือดออกนานกว่าคนปกติทั่วไปเมื่อได้รับบาดเจ็บ และอันตรายมากหากมีเลือดออกในร่างกาย โดยเฉพาะตามข้อศอก ข้อเท้า หัวเข่า อาจร้ายแรงจนถึงขั้นเสียชีวิต ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาด แต่การดูแลตัวเองเป็นอย่างดีก็สามารถทำให้ผู้ป่วยดำเนินชีวิตได้อย่างปกติและมีความสุขเหมือนคนทั่วไป ”
อย่างไรต้องขอเป็นกำลังใจให้น้องและคุณแม่ด้วยนะคะ เพราะโรคภัยไข้เจ็บมักมาหาเราในช่วงที่เราไม่รู้ตัวอยู่เสมอ คนเราจึงควรหาเวลาดูแลสุขภาพอยู่ตลอดเวลา และร้ายกว่าคือเป็นโรคทางพันธุกรรมแบบน้องไปป์ ก็ต้องอาศัยการดูแลต่อไปในอนาคตด้วยความระมัดระวัง เช่น การหลีกเลี่ยงการเล่นกีฬาที่มีโอกาสปะทะกันค่ะ อย่างไรต้องขอขอบคุณคุณแม่น้องไปป์ชาว “HerKid รวมพลคนเห่อลูก” ที่นำประสบการณ์ออกมาเตือนกันนะคะ ให้คุณพ่อคุณแม่ระวังอาการต่างๆโดยเฉพาะถ้าเกิดการฟกช้ำอยู่บ่อยๆ ของลูก ก็ควรพาไปเช็คกับคุณหมอค่ะ คราวหน้าจะมีประสบการณ์ของคุณแม่รุ่นพี่ท่านไหนอีก ห้ามพลาดติดตามกันด้วยนะคะ
ที่มา : HerKid รวมพลคนเห่อลูก (Mayrin Phompimol)
เรียบเรียงโดย : HerKidรวมพลคนเห่อลูก
อ่านประสบการณ์อื่นๆ >>> DIYโยเกิร์ตคุณแม่ ทำไม่ยากอย่างที่คิด!